วชิราวุธ
คนคิดร้าย คิดไม่ดีกับเรา
แค่นึกถึงก็เปรียบเสมือนเราขว้างวชิราวุธออกไป
เราแค่นึกถึงอาวุธนี้ไปปราบคนๆนี้
นึกแล้วขว้าง (ด้วยใจ) ออกไป
จะเห็นผลทันทีโดยไม่ต้องรอ “วชิราวุธ”
จึงเป็นเครื่องรางที่สูงมาก

ในเรื่องราวของวัชระธาตุหรือวชิราวุธ
เป็นวัตถุมงคลที่ท่านอาจารย์แขกชอบเป็นการส่วนตัว
และก็เพียรพยายามในการจะสร้าง (ท่านย้ำว่า..จะสร้าง)
มานานมากกว่า 20 ปี ใช้เวลาในการรวบรวม
มวลสารทั้งหมด พร้อมกับภูมิปัญญาของ
บูรพาจารย์สมัยอดีต บอกต่อๆ กันมา
วิชานี้เป็นวิชาของสายพราหมณ์โบราณ
.
ซึ่งสมัยอดีต…พราหมณ์จะไม่สร้างของสิ่งนี้ให้ชาวบ้าน
เอามาพกเลย แต่ด้วยสภาพของเศรษฐกิจอย่างเช่นทุกวันนี้
มันแย่มากถึงแย่ที่สุด ทุกคนจึงต้องเอาตัวรอดและฝ่าฟัน
ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องเงิน เรื่องปากท้องของตัวเองไปให้ได้
ท่านอาจารย์แขกจึงเล็งเห็นว่า
มันถึงเวลาแล้วที่วัตถุมงคลชนิดนี้จะต้องออกมาเผยแพร่
หากขืนช้ากว่านี้หลายคนอาจจะอดตายไปแล้วก็ได้
.
วัตถุมงคลรายการนี้พราหมณ์เรียก
“วัชระธาตุหรือวชิราวุธ”
ชื่ออาจจะมีความคุ้นเคย
เนื่องจากเป็นชื่อประจำพระองค์
รัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
และตราก็เป็นตราประจำของรัชกาลที่ 6 ด้วย
นับตั้งแต่ท่านอาจารย์แขกได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์
นอกจากอันที่องค์ 6 ทรงถือ
ก็ไม่เคยมีใครทำออกมาอีกเลย
เนื่องจากชนวนมวลสารที่ใช้สร้างหลายคนรู้
แต่ก็ยังงงว่าจะทำได้ยังไง เนื่องจากเป็นเครื่องรางที่
สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ
ประมาณ 2,400 กว่ามาแล้ว ไม่ใช่ของสมัยนี้

ประวัติความเป็นมาของวัชระธาตุหรือวชิราวุธ
สมัยก่อนพระอินทร์ทำการรบกับอสูรชื่อพฤตาสูรแล้วแพ้
ซึ่งพระอินทร์รบกับใครจะไม่เคยแพ้มาก่อน
แต่พอรบกับพฤตาสูรปรากฏว่าแพ้
ซึ่งถือว่าไม่ใช่แพ้ธรรมดา
แต่เป็นการพ่ายแพ้ทั้งกองทัพสวรรค์
ซึ่งในเวลานั้นพระอินทร์มีพระขรรค์
ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธที่สูงอยู่แล้ว แต่ก็ยังแพ้ให้กับพฤตาสูรอยู่ดี
.
สำหรับพฤตาสูรนั้นเป็นอสูรที่กำหนดความแห้งแล้ง
ความไม่อุดมสมบูรณ์ ความยากจน ความลำบาก
รวมความแล้วคือสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมด
ล้วนเกิดจากพฤตาสูรแทบทั้งสิ้น
พฤตาสูรเคยจับเมฆกับดวงอาทิตย์ดวงจันทร์
เข้าไปขังไว้ในถ้ำ ทำให้ไม่มีเมฆ
ประเทศชาติ โลกเกิดความแห้งแล้ง
มนุษย์ได้รับความลำบากเดือดร้อน
พระอินทร์จึงยกทัพสวรรค์ปราบพฤตาสูรตนนี้
เพื่อให้ปล่อยเมฆออกมาจากในถ้ำ
แต่กองทัพสวรรค์ของพระอินทร์
เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อพฤตาสูร
ด้วยที่ว่าอาวุธที่พระองค์มียังใช้ปราบอสูรตนนี้ไม่ได้
.
พระอินทร์จึงนำเรื่องนี้ไปขอคำปรึกษาพระพรหม
ถึงวิธีการที่จะปราบพฤตาสูร พระพรหมจึงแนะนำ
ให้ไปหามหาฤษี คือ โยคีผู้บำเพ็ญพรต
ซึ่งท่านมีญาณที่จะรู้กาลล่วงหน้า
และจะล่วงรู้ถึงสรรพสิ่งในโลกว่า
อะไรแพ้กับอะไร อะไรชนะกับอะไร
.
มหาฤษีนำเรื่องนี้มาประชุมกันว่าจะสร้างอาวุธอะไร
ให้กับพระอินทร์ มหาฤษีองค์หนึ่งแนะสร้างอาวุธ
ที่มาจากอัฐิธาตุของผู้บำเพ็ญพรตชั้นสูง
ในที่ประชุมของมหาฤษีตอนนั้น
มีมหาฤษีตนหนึ่งชื่อทะทีจิ
ซึ่งเก่งเรื่องการเข้าฌานสมาบัติ สู่โลกโกกุตระ
ท่านได้สละร่างกายสังขารตัวเอง
เพื่อให้เอาอัฐิมาสร้างเป็นวัชระหรือวชิราวุธ
เพื่อเอาไปเป็นอาวุธไปปราบพฤตาสูร
โดยการนั่งกำหนดแล้วทิ้งร่างให้ไฟลุก
.
พระอินทร์จึงกอบเอาอัฐิของมหาฤษีไปให้พระวิษณุ
คือ ผู้สร้างอาวุธ ก็ได้เลยมาเป็นวัชิราวุธ
พระอินทร์จึงเอาอาวุธไปปราบพฤตาสูร
ข้อดีของวัชระที่ไม่มีในอาวุธอื่น คือ
เมื่อขว้างวัชระไปยังสิ่งที่จะทำลาย
เมื่อวัชระทำลายเสร็จแล้วจะกลับมาหาผู้ที่ขว้าง
(เหมือนบูมเมอแรง)
ซึ่งไม่มีอาวุธของเทพองค์ใดทำได้เลย

ในวิชามฤคเวทย์ของพราหมณ์
บรรยายว่าวชิราวุธเป็นเครื่องรางชั้นสูงมาก
เป็นเครื่องรางที่สูงที่สุดของพระอินทร์
ว่าด้วยการกำจัดสิ่งที่ไม่อุดมสมบูรณ์ทุกชนิด
ขนาดมหาอสูรอย่างพฤตาสูรยังสิ้นชื่อ
หากเราพกวชิราวุธติดตัว
ก็จะปราบความไม่อุดมสมบูรณ์
ทั้งหมดที่เข้ามาหาเรา ถ้ามีคนที่คิดร้ายกับเรา ๆ
แค่นึกถึงก็จะเปรียบเสมือนเราขว้างวัชระออกไป
เราแค่นึกถึงว่าอาวุธนี้ไปปราบคน ๆ นี้
นึกแล้วก็ขว้าง (ด้วยใจ) ออกไป
มันก็จะเห็นผลทันทีโดยไม่ต้องรอ
วชิราวุธจึงเป็นเครื่องรางที่สูงมาก
.
บูรพาจารย์แห่งเทพศาสตาวุธ คือ
หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ท่านได้บรรจุอาวุธนี้
อยู่ในอาวุธ 5 ของมีดปราบไพรีของหลวงพ่อเดิม
คาถามีดของหลวงพ่อเดิม “สักกัสสะ
(ชื่อของพระอินทร์) วชิราวุธธัง คือ วชิราวุธ
อาวุธของพระอินทร์ คือ วชิราวุธ
ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของอาวุธ 5 ของหลวงพ่อเดิม
เปรียบเสมือนเอาคุณของวชิราวุธ
ให้มาอยู่ในมีดของท่าน ยะมะสะนัยนาวุธธัง
“ยะมะสะ” เป็นยักษ์ที่มีตาเผาผลาญทุกอย่าง
เป็นอาวุธที่เอาคุณของยักษ์มาอยู่ในมีด
เอาคุณของทุกอย่างมาอยู่ใน
“มีดปราบไพรี”ของหลวงพ่อเดิม
.
คำถามที่ตามมา คือ ทำไมหลวงพ่อเดิมจึงไม่ทำวชิราวุธ?
ในเรื่องนี้ท่านอาจารย์แขกได้อธิบายว่า
การทำวชิราวุธนั้นทำยากมาก อย่างที่บอก
บูรพาจารย์โบราณบอกว่าวชิราวุธ
เป็นของที่สร้างจากอัฐิธาตุ
ผู้ที่สอนวิชาการสร้างวชิธาตุให้ท่านอาจารย์แขก
คือ ท่านอาจารย์พราหมณ์จินดา
(มีในตำรามฤคเวทย์ของพราหมณ์)
เนื้อนวะ แก่ทองคำ (แบบเดียวกับขุนช้าง)

– วิธีบูชา ให้เอาด้านแหลมขึ้นข้างบน
– การว่าคาถา…โอม สักกัสสะ วชิราวุธธัง
จากนั้นให้นึกถึงสิ่งที่เราปรารถนา
.
ในสมัยอดีต…ท้าวสักกะเทวราช (พระอินทร์)
ได้อัฐิของมหาฤษีทะทีจิ มาสร้างวัชระหรือวชิราวุธ
ปัจจุบันการสร้างวัชราวุธของอาจารย์แขก
ท่านก็สร้างโดยใช้อัฐิจริงๆ เช่นกัน
โดยเป็นอัฐิของหลวงพ่อริ้ว วัดตลาดเกรียบ
ท่านมีความชำนาญเรื่องของสมเด็จขี่สิงห์
ซึ่งมีความโดเด่นทางมหาอำนาจ ปราบทุกอย่าง
หลวงพ่อริ้วท่าินสำเร็จธรรมชั้นสูง
เมื่อท่านละสังขารไป เมื่อเผาอัฐิจึงแปรสภาพเป็นโลหะ
(ไม่ใช่เหล็ก คุณสมบัติเหมือนทองแดง)
จึงทำให้เข้าใจว่าวิชาสมัยอดีต
ที่บูรพาจารย์โบราณบอกว่าเล่นจนถึงกระดูก
เป็นเหล็กเป็นทองแดง คือ แบบนี้นี่เอง
บางคนเขาเสกข้าวกินทุกวัน ให้ตับเป็นเหล็ก
กระดูกเป็นทองแดง ฟันแทงกูไม่เข้า คือ
เขาจะมีคาถาอยู่บทหนึ่งเลย ..โอมตึกมหาตึก
ให้ตับกูเป็นเหล็ก ให้กระดูกกูเป็นทองแดง
ให้หนังกูเป็นกำแพงแก้ว ฟันแทงกูไม่เข้า
.
เมื่อเสกจนถึง 14 ปี ตามที่บูรพาจารย์โบราณบอก
คือ ตับจะเป็นเหล็ก กระดูกเป็นทองแดง
ให้ฟันแทงกูไม่เข้า เราเคยได้ยินนักรบสมัยโบราณ
เอาแขนเป็นกำแพง รับดาบ รับง้าว รับปืน
ด้วยความที่หนังเป็นกำแพง กระดูกเป็นทองแดง
การเล่นจนถึงขั้นนี้ได้ คือ จิตต้องถึงสุดๆ
นี่คือหลักฐานว่ามีอยู่จริง นอกจากนี้ยังมีโลหิตธาตุ
(เป็นเหล็ก) ท่านอาจารย์ได้มาจากพม่า
.
การที่บูรพาจารย์สมัยอดีตไม่สร้างวัชระธาตุ
เนื่องจากหาอัฐิธาตุของผู้สำเร็จธรรมชั้นสูง
ที่เป็นโลหะไม่ได้ หลายคนสร้างอย่างไม่รู้จริง
ไปเอากระดูกมาแกะ ซึ่งเป็นเรื่องผิดมหันต์
เนื่องจากเราไม่ใช่พระวิษณุ
เราเป็นแค่มนุษย์ทำไม่ได้
ดังนั้นบูรพาจารย์สมัยอดีต
บอกไว้เลยว่าหากจะทำวชิราวุธ
ให้เอาอัฐิธาตุที่เป็นโลหะของผู้บำเพ็ญพรตชั้นสูง
พร้อมกับโลหิตธาตุของผู้บำเพ็ญพรตชั้นสูง
นำมาหล่อหลอมรวมกันกับโลหะมีค่า
แล้วจึงสร้างเป็นวัชระธาตุ
.
ท่านอาจารย์แขกได้ตั้งข้อสังเกต
ตราสัญลักษณ์กรุงเทพมหานคร
เป็นรูปพระอินทร์ชูวัชระธาตุแล้วมีรูปฟ้าผ่า
(วชิราวุธแปลว่าฟ้าผ่า) เพราะฉะนั้นการสร้าง
ต้องมีโลหะที่มาจากฟ้าผ่า การสร้างวชิราวุธของ
อาจารย์แขกจึงต้องใส่ขวานฟ้าลงไปด้วย
(ท่านได้นำขวานฟ้าของจริงมาแสดง)
และได้อธิบายว่าเป็นโลหะที่มาจากสายฟ้า
ซึ่งมีฤทธิ์ทำลายอวิชาหรือมนต์ดำ
บูรพาจารย์สมัยอดีตท่านได้ระบุเลยว่า
“ต้องใส่ลงไป” คือ ใส่ขวานฟ้า
และยังมีโลหะที่มาจากสายฟ้าอื่นๆ อีกมากมาย
.
ในเรื่องคุณวิเศษของวัชราวุธหรือวชิระ
ท่านอาจารย์แขกอธิบายว่า ขนาดพฤตาสูร
(จ้าวแห่งความไม่อุดมสมบูรณ์) ยังแพ้
หากเรานำมาพกติดตัว ความไม่อุดมสมบูรณ์
จะไม่มีทางเกิดกับเราอย่างแน่นอน
หมายความว่าจะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์
และยังเป็นอาวุธชั้นสูง (อาวุธของพระอินทร์)
ในเรื่องของเครื่องหมาย “สวัสดิกะ”
ที่ปรากฏบนวชิราวุธหรือวัชระธาตุ
ท่านอาจารย์แขกอธิบายว่า เป็นเครื่องหมาย
ของศาสนาพราหมณ์ (สมัยอดีต)
หัวตำราเป็นรูปสวัสดิกะ
ท่านจึงเอาโค๊ดมาตีเป็นรูปสวัสดิกะ
.
บูชา 800 บาท
เลี่ยมกันน้ำ 1,000 บาท